สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ

ที่จอดรถ

ทางลาด

ห้องน้ำ

ทางผู้พิการทางการเคลื่อนไหว

ทางเดินผู้พิการทางสายตา

ลิฟท์
สิ่งอำนวยความสะดวก

ห้องน้ำ

อาหาร

ร้านค้า

ที่จอดรถ

สัตว์เลี้ยง

ผู้สูงอายุ

ผู้ปกครอง

สำหรับเด็ก
*สีเขียว มีบริการ
**สีเหลือง หมายถึง อยู่ระหว่างการปรับปรุงหรือมีแล้วแต่ยังไม่ได้มาตรฐาน
***สีเทา(สีแดง) หมายถึง ยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับ
วัดทั้งสองแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ บนเขานั้นเล่ากันว่าเคยมีถ้ำเล็กๆ มีเพิงหิน คือหินก้อนใหญ่ที่ยื่นออกมาคล้ายเพดานหันสาดอยู่ด้านหน้าถ้ำ มักมีพระสงฆ์มาอาศัยจำพรรษา ชาวบ้านในสมัยก่อนจึงเรียกวัดถ้ำหีบบนซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันว่า "วัดตีเจ้าป่า" ซึ่งหมายถึงวัดของพระสงฆ์ที่ชอบอยู่ป่านั่นเอง
ถ้ำหีบนี้ปัจจุบันได้พังถล่มลงแล้ว มีเรื่องเล่าว่าสมัยก่อนในวันพระจะมีเสียงประโคมดนตรีดังมาจากเขาถ้ำหีบ หากเข้าไปใกล้ก็จะได้กลิ่นควันธูปตลบอบอวล แต่เมื่อถ้ำถล่มไปเมื่อคราวญี่ปุ่นเดินทัพผ่านในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียงและกลิ่นควันธูปก็หายไป ว่ากันว่าในถ้ำนั้นเป็นที่อาศัยของชาวลับแล ครั้งหนึ่งมีนายอ่อน คนเลี้ยงช้างชาวขมุ วันหนึ่งไปตามช้างพบคนกลุ่มหนึ่งยืนคุยกันอยู่ที่หน้าถ้ำแล้วชวนไปอยู่ด้วย นายอ่อนตามไปโดยวางปืนไว้หน้าถ้ำ อาศัยอยู่ที่นั่น 1 ปี มีภรรยาและลูก คนที่นั่นมีกฎว่าห้ามพูดปด วันหนึ่งนายอ่อนถูกจับได้ว่าพูดปด จึงต้องกลับออกมา พบว่าเวลาที่นอกถ้ำผ่านไปรวดเร็วกว่าในถ้ำมากนัก
ปัจจุบันวัดถ้ำหีบบนและวัดถ้ำหีบล่าง มีโบราณสถานอยู่กระจัดกระจาย ทั้งกุฏิวิปัสสนา ลานจงกรม วิหารและเจดีย์ แต่สิ่งที่ทำให้วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ พระพิมพ์ลีลา ทำจากดินเผา มีลักษณะอ่อนช้อยงดงาม แสดงเอกลักษณ์ของศิลปกรรมสุโขทัยอย่างเต็มที่